ประวัติและวัตถุมงคลของหลวงพ่อเฒ่าปั้น วัดค้างคาว พระเกจิยุคเก่าของเมืองชัยนาท
หลวงพ่อเฒ่าปั่น วัดค้างคาว ชัยนาท |
หลวงพ่อปั้น วัดค้างคาว หรือ พ่อเฒ่าปั้น อดีตเจ้าอาวาสวัดค้างคาว ตำบลโพงาม อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท ตามประวัติที่เล่าสืบต่อกันมาว่าท่านเกิดในสมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นนักรบในกองทัพที่เคียงข้างสมเด็จพระเจ้าตากสิน
เมื่อพระเจ้าตากสินมหาราชตัดสินใจที่จะแหวกวงล้อม ทหารพม่าที่ล้อมกรุงศรีอยุธยา เพื่อไปตั้งหลักและเตรียมทัพที่จะกู้ชาติ
พ่อเฒ่าปั้นก็เป็นหนึ่งในจำนวนทหารสองร้อยกว่าคนที่ร่วมแหวกวงล้อม โดยพ่อเฒ่าปั้นเป็นนักรบที่มีความเชี่ยวชาญ ในด้านการรบและการไสยเวทย์เป็นอย่างยิ่ง
เพราะท่านได้เรียนวิชาคาถาอาคม มาจากสำนักใดสำนักหนึ่งในอยุธยา จนมีความเชี่ยวชาญ ทั้งการรบและการวางแผน อีกทั้งพระเวทย์ที่เข้มขลัง
เมื่อท่านมาร่วมทัพกับสมเด็จพระเจ้าตากสิน ท่านจึงเป็นคล้ายๆกับ ฝ่ายวางแผนพิชัยสงคราม และไสยเวท์ทั้งปวง จนกระทั่งสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช สามารถกู้ชาติได้สำเร็จ
ท่านก็ได้ติดตามมามาอยู่กับสมเด็จพระเจ้าตากสินอีกพักหนึ่ง หลังจากนั้นเมื่อมีการเปลี่ยนอำนาจการปกครองในท้ายรัชสมัยพระเจ้าตากสินมหาราช ท่านจึงต้องหนีเพราะท่านคือบุคคลสำคัญที่ยืนหยัดเคียงข้างพระเจ้าตากสินมาตลอด
ท่านก็มาอุปสมบท เป็นพระภิกษุกับเพื่อนอีกท่านหนึ่งที่มาด้วยกัน ด้วยเพราะท่านทั้งสองท่านเริ่มจะเบื่อหน่ายในสมบัติ ลาภยศสรรญเสริญ จึงมุ่งเข้าหาพระพุทธศาสนา
พ่อเฒ่าปั้น ท่านจึงออกบวชและศึกษาพระคัมภีร์ จนจบกระบวนความ จากนั้นท่านก็เดินธุดงค์ไปเรื่อยๆ ค่ำไหนนอนนั้นจนกระทั้งมาถึงลำน้ำ แม่น้ำน้อย กระทั้งเป็นตำนานของหลวงพ่อเฒ่าปั้น วัดค้างคาว ที่ลือลั่นมาจนถึงปัจจุปัน
พระอาจารย์จิ๊ วัดค้างคาว ว่าคนเก่าๆเล่าสืบทอดกันมา ว่าพ่อเฒ่าปั้นท่านเป็นชาวบางปลาสร้อย จังหวัดชลบุรี เกิดในสมัยอยุธยา เคยเป็นทหารของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ภายหลังสงคราม ได้บวชเรียน ที่จังหวัดอยุธยา แล้วเดินรุกขมูลไปเรื่อยๆกับสหธรรมิก อีกหนึ่งรูปชื่อหลวงพ่อแป้น ซึ่งมีรูปร่างขาวสูง ส่วนตัวหลวงพ่อปั้น นั้นรูปร่างล่ำแบบมะขามข้อเดียวผิวคล้ำ
โดยร่วมกันบูรณะวัดวาอารามไปทั่ว และเมื่อตอนที่ท่านมาถึง บริเวนแม่น้ำน้อยที่สร้างวัด ก็ได้อธิษฐาน ด้วยการโยนผ้าอาบไป กระทั่งผ้าอาบปลิวตามลม มาตกในบริเวนดังกล่าว ซึ่งเป็นวัดร้างมาก่อน หลวงพ่อเฒ่าปั้น จึงเริ่มรวบรวมศรัทธาบูรณะวัดค้างคาวขึ้น ส่วนหลวงพ่อแป้นก็ล่องเรือต่อไป ทางทิศเหนือแล้วก็ไม่กลับมาอีกเลย
วัดค้างคาว หรือ วัดธรรมิกาวาส เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่ในตำบลโพงาม อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท มีที่ดินตั้งวัดเนื้อที่ ๕๙ ไร่ ๒ งาน ๙๓ ตารางวา ด้านทิศตะวันออกของวัดติดต่อกับแม่น้ำน้อย เป็นวัดที่มีป่ายางสูง มีฝูงลิงอาศัยอยู่จำนวนมาก
วัดธรรมิกาวาส เดิมเป็นวัดร้างชื่อว่า วัดค้างคาว บ้างสะกดว่า วัดคังคาว ต่อมาเมื่อได้มีประชาชนมาตั้งถิ่นฐานอยู่หนาแน่น จึงได้ทำการบูรณะก่อสร้างวัดขึ้นมาเมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๓๙๕
ครั้นถึงปี พ.ศ. ๒๔๘๓ ได้เปลี่ยนนามวัดเป็น "วัดธรรมิกาวาส" ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาราวปี พ.ศ. ๒๔๐๘ เขตวิสุงคามสีมากว้าง ๓๐ เมตร ยาว ๖๐ เมตร ด้านการศึกษาทางวัดได้เปิดสอนพระปริยัติธรรม ปี พ.ศ. ๒๔๗๐ มีโรงเรียนประถมศึกษาตั้งอยู่วัดนี้ด้วย ปัจจุบันมีพระอธิการนพรัตน์ ขนฺติธมฺโม เป็นเจ้าอาวาส
ตอนที่พ่อเฒ่าปั้นท่านล่องเรือมา ท่านมีลิงตัวผู้มาด้วย ๑ ตัวชื่อ เจ้าหอย ต่อมาคงได้แพร่พันธุ์กับลิงป่าแถววัด จนกลายเป็นฝูงลิงของหลวงพ่อเฒ่า ที่ไม่มีใครกล้าทำอันตราย จวบจนกระทั่งปัจจุบัน
หลวงพ่อสวัสดิ์ อดีตเจ้าอาวาสในสมัยหลัง ท่านก็รักลิงเหล่านี้มาก และเมื่อไม่นานมานี้เจ้าลิงก็ทำแสบ แอบขโมยใบลานเทศน์ ที่มีลายมือชื่อของหลวงพ่อเฒ่าปั้นไปเล่นฉีกขาดหลุดหายไป ทำให้ขาดหลักฐาน ทางประวัติศาสตร์ไปอีกชิ้น
นอกจากพ่อเฒ่าปั้นจะเลี้ยงลิงแล้ว ท่านยังมีช้างอีกสามเชือกช้าง ๓ เชือกนี้ ชื่อ บุตร ทรัพย์ และ กระสอบ เป็นช้างแสนรู้ มีความกตัญญูสูง นอกจากจะช่วยชักลากไม้ และเป็นพาหนะในการเดินทางให้หลวงพ่อเฒ่าแล้ว
ทั้งสามยังได้ช่วยกันไปหาฟืน นำมาให้หลวงพ่อเฒ่าและพระในวัดใช้ โดยมิต้องสั่งหรือบังคับแต่อย่างใด โดยภายหลังได้มอบให้ลูกศิษย์เอกคือ หลวงพ่อสงฆ์ วัดสว่างอารมณ์ ไปหนึ่งเชือกคือ พังกระสอบ
หลวงพ่อสงฆ์นี้เป็นพระอาจารย์ของหลวงปู่เมฆ วัดท่าอิฐ โดยหลวงปู่เมฆ วัดท่าอิฐนี้เป็นพระอาจารย์ของหลวงปู่เชิญ อีกต่อหนึ่ง
ท่านพระอาจารย์จิ๊ ยืนยันว่า แต่ก่อนท่านเคยเห็นที่วัดมีตำราคาถาอาคม ของหลวงพ่อเฒ่า ที่คัดโดยหลวงพ่อสงฆ์ แล้วเขียนระบุไว้เลยว่าหลวงพ่อสงฆ์ท่านเป็นคนคัด แต่ปัจจุบันหายไปบ้างลางเลือนไปบ้าง
พ่อเฒ่าปั้น ท่านเป็นพระภิกษุ ที่คนพื้นที่ให้ความเคารพ และเกรงกลัวท่านเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากท่านเป็นพระที่มีอาคมขลัง เป็นพระที่มากด้วยบารมี ท่านเป็นบูรพาจารย์ ของหลวงพ่อหลวงปู่ในยุคปัจจุบันนี้มากมาย
แต่ไม่เป็นที่รู้กันอย่างแพร่หลาย ทั้งนี้อาจเป็นเพราะท่านต้องการเช่นนั้น แต่มิได้หมายความว่า ความขลัง หรือความศักดิ์สิทธิ์ของท่านจะหายไปกับกาลเวลา ในทางตรงข้ามยิ่งนานวัน ความศักดิ์สิทธิ์ของท่านกลับเปี่ยมล้นมากมาย
อดีตเล่ากันว่า มีคนไปเดินสนามพระไปเจอเหรียญพ่อเฒ่าปั้น คนผู้นั้นยังไม่รู้จัก แต่รับมาด้วย หลังจากนั้น มีกลุ่มผู้นิยมพระแต่ไม่นิยมบูชา นิยมลองของกัน ได้จัดเตรียมยิงปืนใส่พระ โดยมีกลุ่มเดียวกันมารวมกัน และเอาทั้งพระทั้งตระกรุด ทั้งเครื่องรางของขลังของครูบาอาจารย์ ที่ว่าแน่ๆแห่งยุค มายิงปืนใส่ ผลปรากฏตามความคาดหมาย
เหรียญพระเครื่องรางของขลัง กระจุยกระจายไม่มีชิ้นดี โดยเฉพาะพระเกจิที่ไม่ถึงขั้น แต่โด่งดังขึ้นมาด้วยแรงเชียร์ แต่แทบไม่น่าเชื่อ มีอยู่เหรียญหนึ่งที่ยิงเท่าไรก็ไม่ออก เหรียญนั้นคือเหรียญที่ชายคนนั้นได้มาจากสนามพระ เพราะพ่อค้าพระแถมมาด้วยนั้นเอง
เขาจึงต้องถามหาว่าเหรียญใคร ท่านอยู่ไหน แต่ไม่มีใครรู้จัก จนเด็กชัยนาทซึ่งเป็นศิษย์หลวงพ่อกวย เข้าไปพบเข้าจึงตอบว่า เป็น "เหรียญหลวงพ่อเฒ่าปั้นแห่งวัดค้างคาว" ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา คนที่ทราบข่าวก็ตามเก็บกันทุกสนาม อย่างมั่นใจ เพราะตอนนั้นยังไม่มีปลอม
ความศักดิ์สิทธิ์ของท่านอีกประการหนึ่งคือเหรียญหรือพระของท่านไม่มีใครกล้าปลอม เพราะมีเรื่องเล่ากันว่า แต่เดิมมีคนแถวๆ ภาคกลางไปปลอมเหรียญท่าน แล้วตายอย่างน่าเกลียดที่สุด จากนั้นก็มีอีก คนทำก็ตายอีก
เหรียญท่านเลยยังไม่มีปลอม แต่ในวันนี้ ไม่แน่เหมือนกัน และคาดว่าผู้ทำคงประสบชะตากรรมไปแล้ว ไม่ใช่ท่านทำให้ตาย แต่อาจเป็นเพราะกรรมของผู้นั้นที่ไปเล่นกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ บรรดาบริวารของท่าน เลยเล่นงานเอา.
วัตถุมงคลของหลวงพ่อปั่น วัดค้างคาว
เหรียญหลวงพ่อเฒ่าปั่น วัดค้างคาว ชัยนาท รุ่นแรก
สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๐๐ เพื่อแจกให้กับผู้ที่บริจาคทรัพย์สร้างอาคารเรียนของวัด ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปเสมาแบบมีหูในตัว มีการสร้างด้วยเนื้อทองแดงกระไหล่ทอง จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้
เหรียญหลวงพ่อเฒ่าปั่น วัดค้างคาว ชัยนาท รุ่นแรก ปี พ.ศ. ๒๕๐๐ เนื้อทองแดงกระไหล่ทอง |
ด้านหน้า เป็นรูปจำลองหลวงพ่อปั่นนั่งสมาธิเต็มองค์บนฐานเขียง องค์หลวงพ่อห่มจีวรลดไหล่พาดผ้าสังฆาฏิรัดแระคต ที่ขอบเหรียญมีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "หลวงพ่อเฒ่า"
ด้านหลัง ตรงกลางเป็นอักขระยันต์ตาราง มีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "ที่ระลึกในการต่ออาคารเรียน วัดธรรมิกาวาส (ถ้ำค้างคาว)"
เหรียญหลวงพ่อเฒ่าปั่น วัดค้างคาว ชัยนาท รุ่นสอง
สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๑๙ เพื่อแจกให้กับผู้ที่บริจาคทรัพย์สร้างศาลาการเปรียญของทางวัด ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปไข่แบบมีหูในตัว มีการสร้างด้วยเนื้อทองแดงกระไหล่ทอง จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้
เหรียญหลวงพ่อเฒ่าปั่น วัดค้างคาว ชัยนาท รุ่น 2 2519 มีกลาก ทองแดงกระไหล่ทอง |
ด้านหน้า เป็นรูปจำลองหลวงพ่อปั่นนั่งสมาธิเต็มองค์บนตั่ง องค์หลวงพ่อห่มจีวรลดไหล่พาดผ้าสังฆาฏิรัดแระคต ที่ขอบเหรียญมีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "หลวงพ่อเฒ่า(ปั่น) วัดค้างคาว อ.วรรคบุรี จ.ชัยนาท"
ด้านหลัง ตรงกลางเป็นอักขระยันต์ตาราง มีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "ที่รฤกสร้างศาลาการเปรียญ พ.ศ. ๒๕๑๙"
โดย : สารานุกรมพระเกจิแห่งแดนสยาม
บทความที่เกี่ยวข้อง
***-[เป็นกำลังใจและสนับสนุนให้เราเขียนบทความดีๆ ด้วยการกดดูโฆษณาด้านล่างนะคะ]-***
ไม่มีความคิดเห็น