ประวัติและวัตถุมงคลหลวงพ่อบุศย์ วัดพรหมวิหาร เจ้าของเหรียญหายากและปลัดขิกชั้นดีของเพชรบุรี
หลวงพ่อบุศย์ วัดพรหมวิหาร เพชรบุรี |
หลวงพ่อบุศย์ วัดพรหมวิหาร หรือ พระครูพรหมวิหารธรรม (บุศย์ ปุญฺมาโค) อดีตเจ้าอาวาสวัดพรหมวิหาร ตำบลท่าราบ อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดใหญ่สุวรรณาราม ตำบลท่าราบ อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี
ท่านมีนามเดิมว่าบุศย์ พริ้งจำรัส เกิดที่บ้านป่าขวาง หมู่ที่ ๔ ตำบลช่องสะแก อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี เมื่อวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๓๓ ตรงกับวันพฤหัสบดี แรม ๓ ค่ำเดือน ๓ ปีขาล โยมบิดาชื่อนายพริ้ง พริ้งจำรัส โยมมารดาชื่อนางดี พริ้งจำรัส
ในสมัยเด็กด้วยความที่ท่านเป็นเด็กที่เฉลียวฉลาดดว่าเด็กทั่วไป โยมบิดาและโยมมารดาได้นำท่านไปฝากเรียนหนังสือไทย สำนักวัดใหญ่สุวรรณาราม จนอ่านออกเขียนได้
ปี พ.ศ. ๒๔๕๔ หลวงพ่อบุศย์ ท่านมีอายุได้ ๒๑ ปีบริบูรณ์ ท่านจึงเข้ารับการอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดใหญ่สุวรรณาราม ตำบลท่าราบ อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี เมื่อ วันที่ ๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๕๔ ได้รับฉายาว่า "ปุญฺมาโค" โดยมี
พระครูมหาวิหาราภิรักษ์ (พุก) วัดใหญ่สุวรรณาราม เป็นพระอุปัชฌาย์
พระอธิการพุ่ม วัดลาด เป็นพระกรรมวาจารย์
พระอธิการชม วัดสิงห์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์
หลังจากที่อุปสมบทแล้ว ท่านได้อยู่จำพรรษาที่วัดใหญ่สุวรรณารามเรื่อยมาเพื่อร่ำเรียนพระธรรมวินัย และวิชาอาคมกับพระอุปัชฌาย์
หลวงพ่อบุศย์ วัดพรหมวิหาร เพชรบุรี |
นอกจากนี้ท่านยังได้เดินทางไปศึกษาวิทยาคมจากพระครูอโศกธรรมสาร (โศก) วัดปากคลองบางครก หลวงพ่อชม วัดสิงห์ เป็นต้น
รวมทั้งท่านยังได้ศึกษาวิชาแพทแผนโบราณ จนมีความรู้ในเรื่องของยาสมุนไพร ยาแผนโบราณที่ใช้รักษาโรค ซึ่งทำให้ท่านมีชื่อเสียงมากในสมัยนั้น
ปี พ.ศ. ๒๔๕๗ ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพรหมวิหารได้ว่างลง พระครูมหาวิหาราภิรักษ์ (พุก) ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ดูแลวัดในพื้นที่ จึงมีคำสั่งให้หลวงพ่อบุศย์ ซึ่งขณะนั้นบวชได้ ๔ พรรษา ไปดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส ทดแทนตำแหน่งที่ว่างลง
วัดพรหมวิหาร เป็นวัดราษฏร์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่ที่ถนนพงษ์สุริยา ตำบลท่าราบ อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี วัดตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองเพชรบุรี มีเนื้อที่ประมาณ ๑๓ ไร่ ๘๕ ตารางวา
วัดสร้างเมื่อใดไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจน ทราบเพียงว่าตั้งวัดอย่างถูกต้องเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๔ และวัดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาปี พ.ศ. ๒๔๘๔
ปี พ.ศ. ๒๔๕๙ ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระกรรมวาจาจารย์
ปี พ.ศ. ๒๔๖๕ ท่านได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงวัดใหญ่สุวรรณาราม
ปี พ.ศ. ๒๔๘๔ หลวงพ่อบุศย์ ท่านได้สร้างพระอุโบสถ และศาลาการเปรียญ ทดแทนของเก่าที่ชำรุด
ปี พ.ศ. ๒๕๐๐ ท่านได้สร้างหอสวดมนต์ หอฉัน หอระฆัง มณฑป เป็นอาคารครึ่งตึกครึ่งไม้ ทรงโบราณ ๒ ชั้น
ปี พ.ศ. ๒๕๐๓ หลวงพ่อบุศย์ ท่านได้รับแต่งตั้งฐานานุศักดิ์เป็นพระครูสังฆรักษ์ ฐานานุกรมใน พระเดชพระคุณพระราชสุวรรณมุนี (ผัน) เจ้าคณะจังหวัดเพชรบุรี วัดมหาธาตุวรวิหาร จังหวัดเพชรบุรี ในสมัยนั้น
หลวงพ่อบุศย์ วัดพรหมวิหาร เพชรบุรี |
ปี พ.ศ. ๒๕๐๖ ด้วยคุณงามความดีของหลวงพ่อบุศย์ ในการพัฒนาวัดจนเจริญรุ่งเรืองเป็นอันมาก ท่านจึงได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ พระครูสัญญาบัตรผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอาราม-หลวง ชั้นตรี ที่ พระครูพรหมวิหารธรรม
ปี พ.ศ. ๒๕๑๓ ในช่วงเดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๑๓ หลวงพ่อบุศย์ ท่านเริ่มมีอาการอาพาธได้พักรักษาตัวอยู่ที่วัดพรหมวิหาร
ต่อมาเมื่อวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๔ อาการท่านกำเริบ คณะศิษย์จึงได้นำท่านไปรักษาที่โรงพยาบาลเพชรบุรี พักรักษาอยู่จนถึงวันที่ ๒๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๑๔ ท่านจึงได้ออกจากโรงพยาบาล มาพักรักษาตัวที่วัด
ในการป่วยครั้งนี้พระภิกษุสามเณร และศิษยานุศิษย์ได้ดูแลรักษาเยียวยากันอย่างเต็มที่ เป็นระยะเวลา ๑ ปีเศษ
หลวงพ่อบุศย์ ปกครองวัดเรื่อยมาจนถึงแก่กาลมรณภาพลงด้วยโรคชราเมื่อวันที่ ๑๕ กันยายน พ.ศ. ๒๕๑๔ ที่กุฏิสงฆ์ของวัดพรหมวิหาร นับรวมสิริอายุได้ ๘๑ ปี ๖๐ พรรษา.
วัตถุมงคลของหลวงพ่อบุศย์ วัดพรหมวิหาร
เหรียญหลวงพ่อบุศย์ วัดพรหมวิหาร รุ่นแรก
สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๔๙๖ เพื่อแจกให้กับผู้ที่บริจาคทรัพย์ให้กับทางวัด ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปไข่แบบมีหูในตัว มีการสร้างด้วยเนื้อทองแดงเพียงชนิดเดียวเท่านั้น จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้
เหรียญหลวงพ่อบุศย์ วัดพรหมวิหาร รุ่นแรก ปี พ.ศ. ๒๔๙๖ เนื้อทองแดง |
ด้านหน้า เป็นรูปจำลองของหลวงพ่อบุศย์ครึ่งองค์ห่มจีวรลดไหล่ พาดผ้าสังฆาฏิ มีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "หลวงพ่อบุตร์ วัดพรหมวิหาร พ.ศ. ๙๖"
ด้านหลัง มีอักขระยันต์พระเจ้าห้าพระองค์อ่านได้ว่า "นะ โม พุท ธา ยะ"
เหรียญหลวงพ่อบุศย์ วัดพรหมวิหาร รุ่นสอง
สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๐๗ เพื่อแจกให้กับผู้ที่บริจาคทรัพย์ให้กับทางวัด และแจกในงานฉลองสมณศักดิ์ของหลวงพ่อ ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปไข่แบบมีหูในตัว มีการสร้างด้วยเนื้อทองแดงเพียงชนิดเดียวเท่านั้น จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้
เหรียญหลวงพ่อบุศย์ วัดพรหมวิหาร รุ่นสอง ปี พ.ศ. ๒๕๐๗ เนื้อทองแดง |
ด้านหน้า เป็นรูปจำลองของหลวงพ่อบุศย์ครึ่งองค์ห่มจีวรลดไหล่ พาดผ้าสังฆาฏิ มีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "พระครูพรหมวิหารธรรม วัดพรหมวิหาร จ.เพชรบุรี พ.ศ. ๒๕๐๗"
ด้านหลัง มีอักขระยันต์พระเจ้าห้าพระองค์อ่านได้ว่า "นะ โม พุท ธา ยะ"
เหรียญหลวงพ่อบุศย์ วัดพรหมวิหาร รุ่น ๓ (เสาร์ห้า)
สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๑๒ เพื่อแจกให้กับผู้ที่บริจาคทรัพย์ให้กับทางวัด ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปวงกลมแบบมีหูในตัว มีการสร้างด้วยเนื้อทองแดงเพียงชนิดเดียวเท่านั้น จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้
เหรียญหลวงพ่อบุศย์ วัดพรหมวิหาร รุ่น ๓ (เสาร์ห้า) ปี พ.ศ. ๒๕๑๒ เนื้อทองแดง |
ด้านหน้า เป็นรูปจำลองของหลวงพ่อบุศย์ครึ่งองค์ห่มจีวรลดไหล่ พาดผ้าสังฆาฏิ มีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "พระครูพรหมวิหารธรรม [หลวงพ่อบุศย์] วัดพรหมวิหาร จ.เพชรบุรี เสาร์ ๕ พุทธาภิเษก"
ด้านหลัง มีอักขระยันต์พระเจ้าห้าพระองค์อ่านได้ว่า "พุท โธ" ใต้อักขระยันต์มีอักขระเลขไทยเขียนว่า "๒๕๑๒" ซึ่งคือปีที่สร้างเหรียญ
ปลัดขิกหลวงพ่อบุศย์ วัดพรหมวิหาร
สร้างขึ้นก่อนปี พ.ศ. ๒๕๑๔ เพื่อแจกให้กับศิษยานุศิษย์ของท่าน โดยหลวงพ่อบุศย์ ท่านสร้างตามตำหรับของพระอาจารย์ของท่าน คือหลวงพ่อโศก วัดปากคลองบางครก เจ้าตำรับปลัดขิกจ้าวทะเล
สร้างจากไม้ที่มีคุณวิเศษในตัว หรือ บางตัวแกะจากงาช้าง ในยุคแรกๆหลวงพ่อจะให้พระเณรในวัดช่วยกันแกะมาให้ จากนั้นท่านจะมาแกะเพิ่มด้วยมือท่านเอง เวลาท่านทำปลัดขิกเสร็จแล้ว
ท่านจะนำไปเผาไฟตัวไหนไม่ไหม้ไฟจึงใช้ได้ บ้างท่านก็ปลุกเสกเสร็จแล้วท่านก็โยนลงใต้กุฏิของท่านซึ่งมีน้ำขังแล้วให้ลูกศิษย์ไปไล่จับเอาเอง
ปลัดขิกหลวงพ่อบุศย์ วัดพรหมวิหาร เพชรบุรี |
ปลัดขิกที่ท่านเสกนั้นมีตัวมีตนมีอิทธิฤทธิ์ ชาวบ้านเล่าสืบต่อกันมาว่าในสมัยก่อนลูกศิษย์ที่ได้รับแจกไปมักนิยมนำไปผูกเอว ขณะดำนาอยู่มีผู้หญิงเดินผ่านปลัดที่ห้อยอยู่ที่เอวก็ชี้ไปทางผู้หญิงคนนั้นอย่างน่าอัศจรรย์
ซึ่งปลัดของท่านจะลงคาถาหัวใจโจร "กันหะเนหะ" จัดเป็นเครื่องรางมหาเสน่ห์ โชคลาภ เมตตาค้าขาย ป้องกันสิ่งไม่ดีต่างๆ ปัจจุบันเริ่มหายาก
โดย : สารานุกรมพระเกจิแห่งแดนสยาม
บทความที่เกี่ยวข้อง
***-[เป็นกำลังใจและสนับสนุนให้เราเขียนบทความดีๆ ด้วยการกดดูโฆษณาด้านล่างนะคะ]-***
ไม่มีความคิดเห็น