ประวัติและวัตถุมงคลหลวงพ่อพรหม วัดบางปูน สิงห์บุรี ที่คนนำไปอุปโลกว่าเป็นหลวงปู่เทพอุดร
หลวงพ่อพรหม วัดบางปูน สิงห์บุรี |
หลวงพ่อพรหม วัดบางปูน หรือ พระใบฎิกาพรหม อดีตเจ้าอาวาสวัดบางปูน ตำบลชีน้ำร้าย อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี พื้นเพท่านเป็นชาวบ้านโพนางดำ อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี เกิดเมื่อวันอาทิตย์ เดือน ๔ ปีมะโรง พ.ศ. ๒๔๒๒ โยมบิดาชื่อนายขุนมา โยมมารดาชื่อนางไข่ (ไม่ทราบนามสกุล) โดยท่านเป็นเป็นบุตรคนโตจากพี่น้องทั้งหมด
ปี พ.ศ. ๒๔๔๔ หลวงพ่อพรหม ท่านมีอายุได้ ๒๒ ปี จึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดระนาม ตำบลชีน้ำร้าย อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ได้รับฉายาว่า "อินทสุวณฺโณ" โดยมี
พระครูอินทมุนี (หลวงพ่อโต) วัดประศุก เป็นพระอุปัชฌาย์
พระอาจารย์พรหม วัดไผ่ล้อม เป็นพระกรรมวาจาจารย์
พระสมุห์ใย วัดระนาม เป็นพระอนุสาวนาจารย์
หลังจากอุปสมบทแล้ว ท่านได้อยู่จำพรรษาที่วัดระนามเรื่อยมาเพื่อศึกษาพระธรรมวินัย และวิชาอาคมต่างๆกับพระสมุห์ใย ซึ่งต่อมาพระสมุห์ใยองค์นี้ภายหลังมีสมณศักดิ์ เป็นพระครูสิงหราชมุนี และเป็นผู้ที่แต่งตั้งหลวงพ่อพรหม เป็นพระใบฎีกาฐานานุกรมของท่าน
จากคำบอกเล่าของพระอธิการบุญเรือง (มหาปญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดบางปูน เล่าว่า ถึงตัวท่านจะไม่ทันหลวงพ่อพรหม แต่คนที่เกิดทันคือบิดา ซึ่งไม่เพียงเป็นศิษย์ใกล้ชิดตอนเป็นเด็กวัดเท่านั้น
เพราะครั้นตอนอายุครบบวชยังได้หลวงพ่อพรหมเป็นพระอุปัชฌาย์บวชให้บิดาท่านด้วย เนื่องจากถือเป็นศิษย์ใกล้ชิดกว่าใครๆ
จึงทำให้ทราบเรื่องเกี่ยวกับหลวงพ่อพรหมหลายประการ และท่านผู้นั้นได้เล่าให้ตนฟังจนจำไม่หวาดไหว เพราะส่วนใหญ่ ล้วนเป็นเรื่องเหลือเชื่อแทบทั้งนั้น เช่น เรื่องท่านมีญาณวิเศษ และล่องหนหายตัวได้ เป็นต้น
ครั้งหนึ่ง ได้มีพระหนีเที่ยว กล่าวคือ หลวงพ่อพรหมได้สั่งกำชับพระทุกองค์ว่า ถ้าองค์ไหนมีธุระออกนอกวัดต้องมาลาท่าน แม้จะไปเยี่ยมเยียนญาติโยมที่บ้านก็ต้องลา
หากแต่ว่ามีพระหนุ่มอยู่กลุ่มหนึ่งที่ชอบหนีไปเที่ยวบ้านสาวๆ เป็นประจำ แต่ท่านทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ และไม่เคยตำหนิติติงอะไรให้สำนึกตระหนักกัน
ครั้นอยู่มาคืนหนึ่งขณะที่พระกลุ่มนี้กำลังเดินไปบ้านสีกา ปรากฏว่าหลวงพ่อพรหมโผล่ออกมาดักพร้อมกับถามว่า "พวกคุณจะไปไหนกัน" ทำให้พระเหล่านั้น หันหลังเดินกลับวัด เพราะนึกละอายแก่ใจและไม่กล้าสู้หน้า
แต่เมื่อกลับถึงวัดกลับเห็นหลวงพ่อพรหม ท่านนั่งฉันน้ำชาอยู่หน้ากุฏิของท่าน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้น ท่านเดินตามหลังกลุ่มพระหนุ่มมาติดๆ ห่างไม่เกิน ๒ วา สรุปว่านับแต่บัดนั้น ไม่มีการหนีเที่ยวทั้งยังขยันหมั่นท่องสวดมนต์อีกต่างหาก
หลวงพ่อพรหม วัดบางปูน สิงห์บุรี |
นอกจากคำบอกเล่าของพระอธิการบุญเรือง ที่ยืนยันว่าหลวงพ่อพรหม วัดบางปูน ไม่ใช่ พระครูเทพโลกอุดร หรือ หลวงปู่เทพอุดรตามที่มีผู้เข้าใจคลาดเคลื่อน
ยังมีคนบอกเล่าให้ฟังอีกรายหนึ่งซึ่งได้แก่ นายสมพงษ์ สีภา ซึ่งปัจจุบันอายุ ๗๐ กว่าปี ชาวบางปูน บอกเล่าแบบยืดยาวพอสมควรว่า แต่เดิมนั้นท่านบวชอยู่กับหลวงพ่อใยหลายพรรษา
ต่อมาภายหลังวัดบางปูนได้ว่างเจ้าอาวาสลง อาจารย์ผู้นั้นจึงได้ส่งท่านมาเป็นเจ้าอาวาสวัดบางปูน และดำรงตำแหน่ง เจ้าคณะหมวดชีน้ำร้าย ในขณะเดียวกัน ท่านเป็นพระกรรมฐาน และมักออกธุดงค์เป็นประจำทุกๆปี
สถานที่ที่ท่านชอบไปบำเพ็ญภาวนาได้แก่ดงป่า และเถื่อนถ้ำแถว บ้านช่องแค ซึ่งขึ้นกับอำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ เพราะแต่ก่อนนั้นละแวกที่ว่ายังเป็นป่ารกชัฏ และมีถ้ำตามภูเขาอยู่หลายถ้ำ
ตามความเข้าใจของตนค่อนข้างเชื่อว่า เวลาที่ออกเดินธุดงค์ ท่านคงจะนำภาพถ่ายติดตัวไปจำนวนหนึ่ง ฉะนั้นจึงเป็นที่แพร่หลายในหมู่ชาวบ้านแถวนั้น ครั้นต่อมาคนรุ่นหลังๆ ไม่ทราบว่าเป็นภาพถ่ายของใคร
จึงตั้งชื่อให้ใหม่เป็น พระครูเทพโลกอุดร หรือ หลวงปู่เทพอุดร เพราะเห็นว่าหน้าตาท่าทางท่าน เหมาะแก่การอุปโลกน์ ด้วยดูขรึมขลังอย่างมาก
และหากจะว่าไปแล้ว ท่านก็เป็นพระที่มีคุณวิเศษหลายประการ เช่น มีญาณวิเศษ มีหูทิพย์ ตาทิพย์ อย่างที่เรียกกันว่าได้อภิญญาหรืออะไรทำนองนั้น แต่ท่านไม่ได้ทำวัตถุมงคลแจกจ่าย มีเพียงภาพถ่ายเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ที่สำคัญหลวงพ่อพรหม ท่านยังมีฐานะเป็นคู่สวด และเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อเจ๊ก วัดระนาม พระเกจิเมืองสิงห์ อีกองค์หนึ่ง ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีอีกด้วย
หลวงพ่อพรหม ปกครองวัดเรื่อยมาจนถึงแก่มรณภาพลงเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๙ นับรวมสิริรวมอายุได้ ๕๘ ปี ๓๙ พรรษา.
วัตถุมงคลของหลวงพ่อพรหม วัดบางปูน
เหรียญหลวงพ่อพรหม วัดบางปูน รุ่นแรก
สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๔๒ เพื่อแจกเป็นที่ระลึกในงาฉลองพระอุโบสถของทางวัด ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปไข่แบบมีหูในตัว มีการจัดสร้างด้วยเนื้อทองแดงเพียงชนิดเดียวเท่านั้น จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้
เหรียญหลวงพ่อพรหม วัดบางปูน รุ่นแรก ปี พ.ศ. ๒๕๔๒ เนื้อทองแดง |
ด้านหน้า เป็นรูปจำลองของหลวงพ่อพรหมนั่งเต็มองค์มือทั้ง ๒ ข้างจับที่หัวเข่า องค์หลวงพ่อห่มจีวรลดไหล่พาดผ้าสังฆาฏิ ใต้รูปหลวงพ่อมีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "พระใบฏีกาพรหม อินฺทสุวณฺโณ"
ด้านหลัง มีอักขระยันต์ ขอบเหรียญมีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "ฉลองอุโบสถ-ศลาสันติสุข วัดบางปูน อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ๗ มี.ค.๔๒"
โดย : สารานุกรมพระเกจิแห่งแดนสยาม
บทความที่เกี่ยวข้อง
ไม่มีความคิดเห็น