ประวัติและวัตถุมงคลหลวงพ่อพระอุปัชฌาย์อยู่ วัดบางปรงธรรมโชติการาม เหรียญหายากของฉะเชิลเทรา

หลวงพ่อพระอุปัชฌาย์อยู่ วัดบางปรง ฉะเชิงเทรา

หลวงพ่ออยู่ วัดบางปรง หรือ พระอุปัชฌาย์อยู่ วัดบางปรงธรรมโชติการาม ตำบลบางพระ อำเภอเมือง จังวหัดฉะเชิงเทรา ท่านเป็นพระคณาจารย์ยุคเก่าอาคมเข้มขลังถือสัจจะเป็นที่ตั้งเมืองแปดริ้ว จังหวัดฉะเชิงเทรา

หลวงพ่ออยู่พื้นเพท่านเป็นชาวฉะเชิงเทรา เกิดเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๘๓ โดยไม่ปรากฏชื่อโยมบิดาและโยมมารดาของท่าน

ปี พ.ศ. ๒๔๐๓ หลวงพ่ออยู่ ท่านมีอายุได้ ๒๐ ปีบริบูรณ์ จึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ โดยไม่ปรากฏชื่อพระอุปัชฌาย์

ปี พ.ศ. ๒๔๒๐ พระอธิการมีเจ้าอาวาสวัดบางปรงได้มรณภาพลง ชาวบ้านและคณะกรรมการสงฆ์จึงพร้อมใจกันนิมนต์หลวงพ่ออยู่ ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสปกครองวัดทดแทนตำแหน่งที่ว่างลง

วัดบางปรงธรรมโชติการาม หรือ วัดบางปรง เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ในตำบลบางพระ อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา มีเนื้อที่ในการสร้างวัด จำนวน ๒๖ ไร่ ๖๐ ตารางวา

วัดตั้งอยู่ริมคลองบางพระ (อยู่ทางฝั่งทิศตะวันตกของคลอง) ซึ่งจะไหลลงสู่แม่น้ำบางปะกงที่ตั้งอยู่ห่างออกไปทางทิศตะวันออกของวัดประมาณ ๒.๘ กิโลเมตร

วัดบางปรงตั้งวัดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๕๐ ตรงกับพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ ๑๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๗

จากหลักฐานทางโบราณคดี ทำให้สันนิษฐานได้ว่า วัดอาจสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลายถึงรัตนโกสินทร์ตอนต้น หลักฐานทางโบราณคดีในวัดที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในปัจจุบันได้แก่ อุโบสถ (หลังเก่า)

วัดได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถานในราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๑๙ ตอนพิเศษ ๑๒๙ง วันที่ ๒๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๕ เรื่อง ขึ้นทะเบียนโบราณสถานและกำหนดเขตที่ดินโบราณสถาน (โบราณสถานวัดบางปรง)

พระอุโบสถ (หลังเก่า) ปัจจุบันเป็นวิหาร หันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือสู่คลองบางพระ มีลักษณะเป็นอาคารทรงไทยก่ออิฐถือปูนขนาดใหญ่ มีพาไลโดยรอบ

หลังคาอุโบสถเป็นทรงจั่วมุขลดมุงกระเบื้องดินเผาแบบเกล็ดปลา หน้าบันทั้งหน้าและหลังประดับลายเทพนม ล้อมรอบด้วยลายเครือเถา พื้นปิดกระจกสี (สีฟ้าหรือสีน้ำเงินเป็นหลัก) คอสองประดับด้วยปูนปั้นลายใบไม้

ที่ผนังสกัดหน้าด้านนอกทำเป็นซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย มีเสมาทำจากหินทรายสีแดงประดิษฐานอยู่ในซุ้มทรงกูบด้านหน้าซุ้มพระพุทธรูป ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปหลายองค์และรูปปั้นพระสงฆ์ มีพระประธาน คือ หลวงพ่ออู่ทองศักดิ์สิทธิ์ เป็นพระพุทธรูปแบบศิลปะอู่ทอง เนื้อสำริด วัดมีรายนามเจ้าอาวาสปกครองดังนี้

๑. หลวงพ่อมี

๒. หลวงพ่ออุปัชฌาหมวดอยู่

๓. หลวงพ่อเล็ก น้อยใจบุญ

๔. พระวินัยสารเวที

๕. พระครูปลัดมงคลวัตร

หลวงพ่อพระอุปัชฌาย์อยู่ วัดบางปรง ฉะเชิงเทรา

หลังจากที่หลวงพ่ออยู่ได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาส ท่านได้พัฒนาวัดอย่างสุดความสามารถทั้งการสร้างเสนาสนะและถาวรวัตถุต่างๆ จนวัดเจริญรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับ

ด้วยคุณงามความดีของหลวงพ่ออยู่ ที่พัฒนาวัดจนเจริญรุ่งเรืองขึ้นเป็นอันมาก ทางคณะสงฆ์จึงแต่งตั้งให้ท่านพระครูชั้นประทวน ตำแหน่งเจ้าคณะหมวดบางพระ (เจ้าคณะตำบล) และดำรงตำแหน่งเป็นพระอุปัชฌาย์

ท่านนับเป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ ๒ ของวัดบางปรงและเป็นเจ้าอาวาสที่ยาวนาน บรรดาชาวบ้านในย่านนั้นกล่าวว่า

หลวงพ่ออยู่เป็นพระที่มีจริยวัตรงดงาม ปฏิบัติเคร่งในพระธรรมวินัย สร้างความเจริญให้กับวัดอย่างมากมาย จนต่อมาได้รับตราตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์อยู่ บางครอบครัวท่านบวชให้พ่อแล้วยังบวชรุ่นลูกก็มี

ท่านเป็นผู้ที่สนใจในการศึกษาเล่าเรียนวิชาคาถาอาคม อันสืบเนื่องมาแต่โบราณกาล ครั้นเมื่อเห็นครูบาอาจารย์ ทําวัตถุมงคลให้กับศิษย์ ต่อมาเมื่อท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดก็จัดสร้างขอขลังทําแจกศิษย์บ้าง

โดยเฉพาะตระกรุดโทน ที่ศิษย์ของท่านที่ผู้นำไปใช้ ปรากฏว่าอาวุธอะไรก็ทำอันตรายไม่ได้ จนตะกรุดของท่านมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั้งจังหวัด

ครั้งหนึ่งหลวงพ่ออยู่ ได้ทำตะกรุดโทนแจกศิษย์ ๑ ดอก ปรากฏภายหลังว่า "ศิษย์ของท่านเป็นโจรปล้นชาวบ้าน ตำรวจตามล่าโจร แต่ยิงเท่าไหร่ก็ไม่ตาย เป็นโจรหนังเหนียว เจ้าเมืองฉะเชิงเทราจึงมาวัดบางปรงฯ เพื่อขอร้องให้ท่านงดการทาตะกรุดโทนให้ใครอีก"

หลวงพ่ออุปัชฌาย์อยู่ ท่านจึงบอกแก่เจ้าเมืองฉะเชิงเทราว่า ท่านตั้งสัจจะไม่ทําตะกรุดโทนให้กับใครอีก จึงทราบกันตั้งแต่นั้นมาว่า พระอุปัชฌาย์อยู่มีวิชาขลังทําตะกรุดได้เหนียวจริง

หลวงพ่ออยู่ ปกครองวัดเรื่อยมาจนถึงแก่มรณภาพลงด้วยโรคชราเมื่อวันที่ ๑๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๖๖ นับรวมสิริอายุได้ ๘๓ ปี ๖๒ พรรษา.

ในวันที่พระอุปัชฌาย์อยู่ วัดบางปรงฯ ท่านละสังขารได้เกิดฝนฟ้ามีดครึ้ม อากาศวิปริต ฝนตกเพียงครู่เดียวแล้วก็หยุด ท่านพระครูปลัดมงคลวัตร ซึ่งเป็นรองเจ้าอาวาสวัดเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๘ ได้เล่าว่า

แม้ว่าท่านจะมรณภาพแล้ว แต่ความขลังและความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่ออยู่ ก็ยังคงมีอยู่ ชาวบ้านรุ่นโบราณผู้สูงอายุในพื้นที่ทุกคน ก็เคยพบความมหัศจรรย์มาแล้ว เช่น งานจัดสร้างรูปหล่อขนาดเท่าองค์จริง ต้องใช้ปัจจัยในการทําสูงมาก

แต่เงินของวัดไม่มี จึงบอกกล่าวกับหลวงพ่ออปัชฌาย์อยว่า "ทางวัดต้องการจะจัดสร้างรูปหล่อพระอุปัชฌาย์อยู่ ไว้ให้คนรุ่นหลังได้เคารพบูชาในจริยวัตรคุณความดีของหลวงพ่อ จึงขอให้ วิญญาณหลวงพ่อช่วยดลจิตดลใจให้มีผู้ร่วมบริจาคทุนทรัพย์ในการสร้าง"

ปรากฏว่าเมื่อศิษยานุศิษย์ทราบข่าวว่าวัดบางปรงฯ จะสร้างรูปหล่อฯ ได้มีผู้หลั่งไหลกันมาทําบุญเป็นจํานวนมาก ในยุคนั้นเงินทองหายากแต่มีผู้ศรัทธามาบริจาคถึง ๓,๘๐๐ บาท

ทางวัดจึงจัดทําพิธีหล่อรูปเททองในวันพระขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๕ เริ่มพิธี ๒๔.๐๐ น. ก่อนเริ่มพิธีฝนก็ตกตั้งแต่วันขึ้น ๑๔ ค่ํา เรื่อยมากระทั่งถึงวันขึ้น ๑๕ ค่ำฝนก็ตกแต่พอจะได้เวลา ๒๔.๐๐ น. ฝนหยุดตกแบบเป็นนิมิตหมายที่ดี

พิธีจึงได้เริ่มขึ้นและไม่เป็นอุปสรรคใดๆ อีกแล้ว สายลมอ่อนๆ พัดผ่านเข้ามาชุ่มฉ่ำ ท่านพระครูวิจารณ์ธรรมานุวัตร เป็นประธานเททอง พอทําพิธีเททองไปได้ครู่เดียว ฝนก็เทมาจากฟ้าอีกจึงนับว่าแปลกมากๆ.

วัตถุมงคลของหลวงพ่ออยู่ วัดบางปรง

เหรียญหลวงพ่อพระอุปัชฌาย์อยู่ วัดบางปรง รุ่นแรก

สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๔๖๗ เพื่อแจกในงานศพของหลวงพ่อถือเป็น ๑ ใน ๕ เหรียญยอดนิยมของเมืองฉะเชิงเทรา เหรียญได้รับการปลุกเสกโดยศิษย์เอกของท่านคือ พระอุปัชฌาย์ วัดเกาะ กับ พระครวิจารณ์ธรรม (เที่ยง) วัดโพธาราม ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มข้างเลื่อยแบบมีหูในตัว มีการสร้างด้วยเนื้อทองแดงเพียงชนิดเดียวเท่านั้น จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้

เหรียญหลวงพ่อพระอุปัชฌาย์อยู่ วัดบางปรง ฉะเชิงเทรา รุ่นแรก 2467 ทองแดงกระไหล่ทอง

เหรียญหลวงพ่ออยู่ วัดบางปรง ฉะเชิงเทรา รุ่นแรก ปี พ.ศ. ๒๔๖๗ เนื้อทองแดงกระไหล่ทอง ของคุณภูมิ ลักษณ์

เหรียญหลวงพ่อพระอุปัชฌาย์อยู่ วัดบางปรง ฉะเชิงเทรา รุ่นแรก 2467 ทองแดงกระไหล่ทอง-ขอบ

เหรียญหลวงพ่อพระอุปัชฌาย์อยู่ วัดบางปรง ฉะเชิงเทรา รุ่นแรก 2467 ทองแดง

เหรียญหลวงพ่ออยู่ วัดบางปรง ฉะเชิงเทรา รุ่นแรก ปี พ.ศ. ๒๔๖๗ เนื้อทองแดง ของคุณกฤชนณ แปดริ้ว

ด้านหน้า จำลองเป็นรูปหลวงพ่ออยู่นั่งสมาธิเต็มองค์ องค์หลวงพ่อห่มจีวรลดไหล่พาดผ้าสังฆาฏิ เหนือรูปหลวงพ่อมีอักขระภาษาขอมอ่านได้ว่า "พุท ธะ สัง มิ" ใต้รูปหลวงพ่อมีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "ที่ระฤกหลวงพ่ออุปัชฌาอยู่วัดบางปลง ฉะเชิงเทรา"

ด้านหลัง มีอักขระยันต์ตาราง ใต้ยันต์ตารางมีมีอักขระภาษาขอมอ่านได้ว่า "พุท ธะ สัง มิ" ใต้อักขระยันต์มีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "พ.ศ. ๒๔๖๗"

โดย : สารานุกรมพระเกจิแห่งแดนสยาม

บทความที่เกี่ยวข้อง